หน้าเว็บ

ชะอม(ข้อมูลเพิ่มเติม)


สรรพคุณของชะอม
1. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากมีวิตามินเอสูง
2. ยอดชะอมช่วยลดความร้อนในร่างกายได้
3.ผักรสมันอย่างชะอมมีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ
4. ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันโรคท้องผูก
5. รากชะอมนำมาฝนกินช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดท้อง และช่วยขับลมในลำไส้
6. มีส่วนช่วยบำรุงเส้นเอ็น
7. ช่วยแก้อาการลิ้นอักเสบเป็นผื่นแดง

ประโยชน์ของชะอม
1. ประโยชน์ของชะอม ช่วยฟื้นฟูผมแห้งเสีย แตกปลาย ด้วยสูตรน้ำชะอมหมักผม เพียงแค่นำใบชะอมประมาณ 1 กำมือมาต้มกับน้ำเปล่า 3 ถ้วย จนได้น้ำชะอมเข้มข้น กรองเอาแต่น้ำ เมื่อสระผมเสร็จให้นำผ้าขนหนูมาชุบน้ำชะอมที่เตรียมไว้ บิดพอหมาด นำมาเช็ดผมให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก จะช่วยทำให้ผมแห้ง ๆ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
2. ชะอม ประโยชน์นำมาทำเป็นเมนูอาหารได้หลากหลายเมนู เมนูชะอม เช่น ไข่ชะอม ไข่ทอดชะอม ชะอมชุบไข่ แกงส้มชะอมกุ้ง แกงส้มชะอมไข่ นำมาลวกหรือนึ่งใช้เป็นผักจิ้มกับน้ำพริก น้ำพริกกะปิ รับประทานร่วมกับส้มตำมะม่วง ตำส้มโอ หรือจะนำไปปรุงเป็นแกงรวมกับปลา เนื้อ ไก่ กบ เขียด หรือต้มเป็นอ่อม ทำแกงลาว แกงแค เป็นต้น

คุณค่าทางโภชนาการของยอดชะอม 100 กรัม
1. พลังงาน 57 กิโลแคลอรี
2. เส้นใยอาหาร 5.7 กรัม
3. ธาตุแคลเซียม 58 มิลลิกรัม
4. ธาตุฟอสฟอรัส 80 มิลลิกรัม
5. ธาตุเหล็ก 4.1 มิลลิกรัม
6. วิตามินเอ 10066 IU
7. วิตามินบี 1 0.05 มิลลิกรัม
8. วิตามินบี 2 0.25 มิลลิกรัม
9. วิตามินบี 3 1.5 มิลลิกรัม
10. วิตามินซี 58 มิลลิกรัม

โทษของชะอม
1. สำหรับคุณแม่ที่เพิ่งมีบุตรอ่อน ไม่ควรรับประทานผักชะอม เพราะจะทำให้น้ำนมแม่แห้งได้
2. ผักชะอม สำหรับคุณแม่ลูกอ่อน จะแพ้กลิ่นของผักชนิดนี้อย่างมาก ดังนั้นควรอยู่ห่าง ๆ
3. การรับประทานผักชะอมในหน้าฝน อาจจะมีรสเปรี้ยว กลิ่นฉุน บางครั้งอาจทำให้มีอาการปวดท้องได้ (ปกตินิยมรับประทานผักชะอมหน้าร้อน)
4. กรดยูริกเป็นตัวการที่ทำให้เกิดข้ออักเสบในผู้ป่วยโรคเกาต์ ซึ่งเกิดมาจากสารพิวรีน (Purine) โดยผักชะอมนั้นก็มีสารพิวรีนในระดับปานกลางถึงระดับสูง ผู้ป่วยโรคเกาต์5. สามารถรับประทานได้ แต่ควรรับประทานในปริมาณที่จำกัด หากเป็นมากก็ไม่ควรรับประทาน เพราะจะทำให้ปวดกระดูกได้
6. อาจพบเชื้อก่อโรคอย่างซาลโมเนลลา (Salmonella) ซึ่งเป็นเชื้อที่สามารถพบได้ทั่วไปในสภาพแวดล้อม เช่น ดิน น้ำ อากาศ เมื่อเรานำผักชะอมที่ปนเปื้อนสารชนิดนี้มา7. ประกอบอาหารโดยไม่ล้างทำความสะอาดหลาย ๆ ครั้ง หรือไม่นำมาปรุงให้สุกก่อนรับประทาน อาจมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อชนิดนี้ได้ โดยผู้ที่ได้รับเชื้อชนิดอาจจะมี8. อาการท้องเสีย ปวดท้อง ถ่ายเหลวเป็นน้ำสีเขียว หรือถ่ายเป็นมูกมีเลือดปน มีไข้ เป็นต้น

แหล่งข้อมูล :
1. เว็บไซต์เดออะแดนดอตคอม, สถาบันการแพทย์แผนไทย, วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (EN), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
2. ภาพประกอบ : เว็บไซต์ pantip.com (by Lifeguard), www.khlung.chanthaburi.doae.go.th
3. Medthai.co “ชะอม สรรพคุณและประโยชน์ของชะอม 9 ข้อ !”  [ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://medthai.com/ชะอม/ [15/04/2019]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น