สรรพคุณของกระทิง
- ทั้งต้นมีรสเมาและฝาดเล็กน้อย ใช้เป็นยาสุขุม มีพิษเล็กน้อย (ทั้งต้น)
- ดอกมีรสหอมเย็น ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ แก้อาการการเต้นของหัวใจผิดปกติ และใช้ปรุงเป็นยาหอม (ดอก, ดอกและใบ)
- ดอกใช้เป็นยาชูกำลัง (ดอก)
- ใบมีรสเมาเย็น ช่วยแก้อาการตาแดง ตาฝ้า ตามัว และใช้ล้างตา โดยใช้ใบตำกับน้ำสะอาดล้างตา (ใบ)
- ยางมีฤทธิ์ทำให้อาเจียน (ยาง)
- ยางจากต้นและเปลือกต้นใช้เป็นยาพอกทรวงอกแก้วัณโรคปอด (ยาง)
- ยางมีฤทธิ์เป็นยาถ่าย ยาระบายอย่างรุนแรง (ยาง)
- ช่วยขับปัสสาวะ (ยาง)
- น้ำคั้นจากใบใช้เป็นยาฝาดสมานภายนอก ใช้กับโรคริดสีดวงทวาร (ใบ)
- น้ำมันจากเมล็ดที่ทำให้บริสุทธิ์ใช้กินแก้โรคหนองใน (น้ำมันจากเมล็ดบริสุทธิ์)
- เปลือกต้นใช้ต้มเป็นยาขับปัสสาวะในโรคหนองใน (เปลือกต้น)
- ช่วยแก้ประจำเดือนมาไม่เป็นปกติและช่วยแก้อาการปวดประจำเดือนของสตรี (ดอกและใบ)
- เปลือกต้นใช้ทำเป็นพลาสเตอร์ปิดแผล (เปลือกต้น)
- ช่วยรักษาแผลสด ห้ามเลือด (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
- เปลือกต้นใช้เป็นยาแก้คัน (เปลือกต้น)
- ยางจากต้นและเปลือกใช้ภายนอกสำหรับล้างแผลอักเสบเรื้อรัง (ยาง)
- เปลือกต้นใช้ชำระล้างแผล (เปลือกต้น) รากใช้เป็นยาล้างแผล (ราก)
- ต้นและเปลือกต้นให้ยางใช้สำหรับทาแผล เป็นยาสมานแผลและกัดฝ้า
(เปลือกต้น, ยาง)
- ช่วยแก้โรคผิวหนัง ผื่นคัน แก้เหา และช่วยสมานแผล (น้ำมันจากเมล็ด)
- ช่วยรักษาโรคเรื้อน (เปลือกต้น, น้ำมันจากเมล็ด)
- น้ำมันจากเมล็ดใช้แก้หิดและกลากเกลื้อน (น้ำมันจากเมล็ด)
- รากช่วยแก้อาการฟกช้ำ (ราก) เปลือกต้นช่วยแก้อาการฟกช้ำดำเขียว (เปลือกต้น)
- เปลือกต้นใช้เป็นยาทาภายนอกแก้อาการบวม (เปลือกต้น)
- รากใช้เป็นยาแก้อาการปวดบวมเคล็ดขัดยอก (ราก) ส่วนเมล็ด (น้ำมัน) มีรสเมาร้อนและมีน้ำมัน ใช้สำหรับถูนวดแก้อาการปวดข้อ แก้อาการเคล็ดขัดยอก แก้บวมได้ (น้ำมันจากเมล็ด)
- ช่วยแก้อาการปวดเมื่อย ปวดตามแข้งตามขาเนื่องจากลมชื้น (ราก)
- ช่วยแก้อาการปวดหลังอันเนื่องมาจากไตพร่อง (ราก)
- ชวยแก้อาการปวดข้อ ปวดกระดูก (ราก)
- วิธีการใช้ : ใบ
เปลือกต้น ราก ถ้าเป็นยาแห้งให้ใช้ครั้งละ 10-15 กรัม
ส่วนรากสดให้ใช้ครั้งละ 20-30 กรัม
ถ้าใช้ภายในให้นำมาต้มกับน้ำดื่ม หากใช้ภายนอกเพื่อรักษาแผลสดห้ามเลือด
แก้เคล็ดขัดยอก อาการปวดบวม ให้ใช้ตามที่ต้องการ
- ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรกระทิง
- ยาจากสมุนไพรกระทิงมีพิษ เวลาใช้ต้องระมัดระวัง
- ยางจากต้นกระทิงมีพิษ มีฤทธิ์ทำให้อาเจียนและออกฤทธิ์เป็นยาถ่ายอย่างรุนแรง
- ใบกระทิงมีสาร Saponin และสารเมื่อละลายน้ำแล้วจะมีสาร Hydrocyanic acid ออกมา จึงทำให้เป็นพิษต่อมนุษย์และปลา
- หากนำผลของกระทิงไปสกัดด้วยแอลกอฮอล์ 60% จะทำให้สารที่ได้มาไม่เป็นพิษ
- ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของกระทิง
- สารสกัดชั้นน้ำและชั้นเมทานอลมีฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อ
HIV-1
และยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ HIV-1 reverse
transcriptase
- สารสกัดจากเปลือกรากมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย
- สาร Calophyllolide ซึ่งเป็นสารจำพวก Lactone ที่แยกได้จากต้นกระทิงมีฤทธิ์ในการลดการอักเสบ
- สารสกัดและสารที่แยกได้จากเปลือกรากของกระทิงมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียจำพวกแกรมบวก
และสารจำพวก Coumarin ที่ได้จากต้นกระทิงมีฤทธิ์ในการยับยั้ง
Retrovirus หลายชนิด
- สารจากต้นกระทิงมีฤทธิ์ในการกระตุ้นการทำงานของ Phagocyte
- ฤทธิ์ในการต้านเชื้อ HIV สารคูมาริน 2 ชนิด
ที่พบในใบและกิ่งของต้นกระทิง คือ inophyllum B และ P
มีฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์ reverse transcriptase ของ HIV-1
ประโยชน์ของกระทิง
- ทั้งต้นและใบสามารถนำมาใช้ทำเป็นยาเบื่อปลาได้
- น้ำมันจากเมล็ดสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการปรุงเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม และใช้ทำสบู่ได้
- น้ำมันจากเมล็ดนำมาใช้ผสมทำเป็นน้ำมันไบโอดีเซลได้
- ยางจากต้นและเปลือกต้นใช้แต่งกลิ่น (ไม่ได้ระบุว่าแต่งกลิ่นอะไร)
- นิยมปลูกต้นกระทิงเพื่อเป็นไม้ให้ร่มเงา ชอบอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ปลูกได้ตั้งแต่ชายทะเลถึงบนเขาสูง หรือจะปลูกไว้ในกระถางก็ได้ เนื่องจากเป็นไม้ที่เจริญเติบโตช้า (ไม่ควรปลูกไว้ใกล้บริเวณอาคาร เพราะต้นกระทิงระบบรากมีความแข็งแรง อาจทำให้เกิดความเสียหายกับตัวอาคารได้) ใบไม่หลุดร่วงง่ายและมันเป็นเงาสวยงาม ทนดินเค็ม แสงแดดจัด และลมแรงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังไม่มีโรคและแมลงมารบกวน สามารถควบคุมการออกได้ด้วยการให้น้ำและการใส่ปุ๋ยอย่างถูกต้อง
- เนื้อไม้กระทิงสามารถนำมาใช้ในงานก่อสร้าง ทำเครื่องเรือน ทำตู้ ไม้หมอนรถไฟ เครื่องมือเกษตรกรรม เช่น แอก ฯลฯ หรือใช้ทำเรือ และกระดูกงูเรือได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น