สรรพคุณของมะพลับ
1.เปลือกต้นมีรสฝาดใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาบำรุงธาตุ
(เปลือกต้น, เนื้อไม้)
2.ใช้เปลือกต้นนำมาต้มกับน้ำดื่มช่วยทำให้เจริญอาหาร
(เปลือกต้น, เนื้อไม้)
3.เปลือกต้นเป็นยาลดไข้
(เปลือกต้น)
4.เปลือกและผลอ่อนใช้เป็นยาแก้ไข้มาลาเรีย
(เปลือกและผลอ่อน)
5.เปลือกและผลแก่มีรสฝาดหวาน
ใช้เป็นยารักษาแผลในปาก แก้คออักเสบ ด้วยการใช้เปลือกและผลแก่นำมาต้มเป็นยาอม
กลั้วคอ (เปลือกและผลแก่)
6.ช่วยขับผายลม (เปลือกต้น, เนื้อไม้)
7.เปลือกต้นใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้บิด
แก้ท้องร่วง (เปลือกต้น, เนื้อไม้) ส่วนอีกข้อมูลระบุว่าการใช้เป็นยาแก้บิด
แก้ท้องร่วงให้ใช้เปลือกและผลอ่อนนำมาต้มกับน้ำรับประทาน (เปลือกและผลอ่อน, ผลดิบ, เมล็ด)
8.เปลือกต้นนำมาย่างให้กรอบชงกับน้ำดื่ม
เป็นยาแก้กามตายด้าน แก้ความกำหนัด บำรุงความกำหนัด (เปลือกต้น, เนื้อไม้)
9.เปลือกต้นใช้เป็นยาทาสมานบาดแผลและช่วยห้ามเลือด
(เปลือกต้น, เนื้อไม้)
ส่วนอีกข้อมูลระบุว่าให้ใช้ผลดิบเป็นยาห้ามเลือด และใช้เปลือกและผลอ่อนนำมาต้มเอาน้ำใช้ชะล้างบริเวณบาดแผล
สมานแผล (เปลือกและผลอ่อน, เปลือกต้น, ผลดิบ)
ประโยชน์ของมะพลับ
1.ผลมะพลับแก่สามารถใช้รับประทานได้
2.เนื้อไม้มะพลับสามารถนำมาใช้ทำเครื่องมือทางการเกษตร
เครื่องกลึง และใช้ในงานแกะสลักได้
3.เปลือกต้นให้น้ำฝาดที่นำมาใช้สำหรับการฟอกหนัง
4.ยางของลูกมะพลับจะให้สีน้ำตาล
เมื่อนำมาละลายกับน้ำจะใช้ย้อมผ้า แห และอวนเพื่อให้มีความทนทานเช่นเดียวกับตะโก
แต่ยางจากลูกมะพลับจะมีคุณภาพที่ดีกว่า
เพราะไม่ทำให้เส้นด้ายแข็งกรอบเหมือนลูกตะโก
จึงทำให้ยางของลูกมะพลับมีราคาดีกว่าลูกตะโกมาก
จึงมีพ่อค้าหัวใสนำยางของลูกตะโกมาปลอมขายเป็นยางมะพลับ จึงเกิดคำพังเพยที่ว่า
"ต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก"
5.สำหรับการปลูกต้นมะพลับเพื่อใช้งานด้านภูมิทัศน์นั้น
สามารถปลูกได้ตามริมน้ำ เพื่อให้ร่มเงาได้ดี เพราะเป็นไม้ไม่ผลัดใบ
6.ในด้านของความเชื่อ
คนไทยเชื่อว่าต้นมะพลับเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง
ด้วยเชื่อว่าการปลูกต้นมะพลับไว้ในบริเวณบ้านจะทำให้ร่ำรวยยิ่งขึ้น
โดยกำหนดให้ปลูกไว้ทางทิศใต้
7. บางตำราก็ว่ามะพลับเป็นไม้ที่ควรปลูกไว้ทางทิศใต้
แต่ยังหาหลักฐานยืนยันไม่ได้แน่ชัด
คาดว่าคงเป็นเพราะต้นมะพลับเป็นไม้ยืนต้นที่มีอายุยืน ทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดี
หากนำมาปลูกไว้ในบริเวณบ้าน
เชื่อว่าจะทำให้มีความอดทนต่อสิ่งแวดล้อมเหมือนดังต้นมะพลับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น