หน้าเว็บ

ประดู่ป่า(ข้อมูลเพิ่มเติม)


สรรพคุณของประดู่ป่า

  1. สารสกัดจากใบสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ ตามตำรับยาระบุให้ใช้ใบประดู่ป่า 1 กำมือ นำมาต้มกับน้ำ 3 แก้ว ใช้แบ่งดื่มก่อนอาหารเช้าและเย็น (ใบ)
  2. เปลือกต้นนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาบำรุงร่างกาย (เปลือกต้น)
  3. แก่นมีรสขมฝาดร้อน มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลัง (แก่น)
  4. แก่นมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงโลหิต ช่วยแก้โลหิตจาง (แก่น)
  5. ตำรายาไทยจะใช้แก่นเป็นยาแก้กษัย (อาการป่วยที่เกิดจากหลายสาเหตุ ทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมซูบผอม โลหิตจาง ปวดเมื่อย) (แก่น)
  6. แก่นมีสรรพคุณเป็นยาแก้ไข้ (แก่น)
  7. แก่นใช้เป็นยาแก้เสมหะ แก้โลหิตและกำเดา (แก่น)
  8. ผลมีรสฝาดสมาน มีสรรพคุณเป็นยาแก้อาเจียน (ผล)
  9. ผลมีสรรพคุณเป็นยาแก้ท้องร่วง (ผล)
  10. เปลือกต้นนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ท้องเสีย (เปลือกต้น)
  11. ช่วยขับปัสสาวะ (แก่น)
  12. เปลือกต้นมีรสฝาดจัด มีสรรพคุณเป็นยาสมานบาดแผล (เปลือกต้น)
  13. ใบใช้เป็นยาพอกฝีให้สุกเร็ว ใช้พอกบาดแผล (ใบ)
  14. ใบใช้เป็นยาพอกแก้ผดผื่นคันได้ (ใบ) ส่วนแก่นก็มีสรรพคุณช่วยแก้ผื่นคันได้เช่นกัน (แก่น)
  15. แก่นมีสรรพคุณเป็นยาแก้คุดทะราด (แก่น)
  16. แก่นมีสรรพคุณเป็นยาแก้พิษเมาเบื่อ (แก่น)
  17. ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของประดู่ป่า
  18. สารสำคัญที่พบ ได้แก่ สารอีปิแคทเทซิน ในเนื้อไม้ประกอบไปด้วยสารที่มีชื่อว่า Narrin ซึ่งเป็น Amorphous และสีแดงเข้ม สารนี้เมื่อนำมาหลอมกับด่างจะให้ phloroglucinol และ resocicinol และยังมีสารสี santalin และ angolensin อีกด้วย ส่วนเปลือกต้นมี gum kino เหมือนกับประดู่บ้าน และมี tannic acid เป็นส่วนผสมอยู่ด้วย
  19. เมื่อปี ค.ศ.1986 ที่ประเทศอินเดีย ได้มีการทดลองนำสารอิปิแคทเทซินที่สกัดได้จากประดู่บ้านมาใช้ โดยพบว่าสารดังกล่าวสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูที่ทำให้เป็นเบาหวานด้วยสาร Alloxan (สาร Alloxan จะเข้าไปทลายเซลล์ต่อมตับอ่อนที่สร้างอินซูลิน ทำให้หนูเป็นเบาหวาน)
  20. จากการทดสอบความเป็นพิษ พบว่า เมื่อสารสกัดจากส่วนที่อยู่เหนือดินของต้นประดู่บ้านด้วย 50% เอทานอล นำมาฉีดเข้าทางช่องท้องของหนูถีบจักรทดลอง พบว่าในขนาดที่ทำให้หนูถีบจักรตาย 50% มีขนาดมากกว่า 1 กรัมต่อกิโลกรัม

ประโยชน์ของประดู่ป่า

  1. ใบมีรสฝาด นำมาชงกับน้ำใช้สระผมได้
  2. ไม้ประดู่ เป็นไม้ที่มีคุณภาพดี มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ เพราะเป็นไม้เนื้อแข็ง เนื้อไม้ละเอียดปานกลาง ปลวกไม่ทำลาย มีเนื้อไม้ที่มีสีสวยและลวดลายสวยงาม สีแดงอมเหลืองถึงสีแดงอิฐเข้ม มีเส้นสีแก่กว่าสีพื้น เสี้ยนสนเป็นริ้วไสกบตกแต่งชักเงาได้ดี สามารถนำมาใช้ในการก่อสร้างบ้านเรือน ทำเสา คาน ฝาบ้าน พื้นบ้าน ไม้ปาร์เกต์ ไม้ประสาน ไม้อัด แผ่นไม้ชุบซีเมนต์ ฯลฯ ใช้ทำเกวียน ทำเรือคานและเรือทั่ว ๆ ไป รวมไปถึงส่วนประกอบต่าง ๆ ของเรือ เพราะประดู่เป็นไม้ที่มีคุณสมบัติทนน้ำเค็มได้ดี นอกจากนี้ยังนิยมนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องเรือนต่าง ๆ เครื่องมือเครื่องใช้ เช่น ด้ามมีด จานรองแก้ว ทัพพี ฯลฯ หรือนำมาทำเป็นเครื่องดนตรี เช่น ซอด้วง ระนาด เป็นต้น ส่วนต้นประดู่บางต้นจะเกิดปุ่มตามลำต้น หรือที่เรียกว่า "ปุ่มประดู่" ทำให้ได้ไม้ที่มีเนื้อไม้งดงาม มีราคาแพงมากและหาได้ยาก โดยมากนิยมนำมาใช้ทำเป็นเครื่องเรือนและเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆไม้ประดู่มีความแข็งมากกว่าไม้สัก 2 เท่า และหนักกว่าประมาณ 24% มีค่าความแข็ง 925 กิโลกรัม มีความทนทานตามธรรมชาติเฉลี่ยสูงถึง 14 ปี (เมื่อทดลองนำมาฝังดิน)
  3. ใช้เป็นฟืนและถ่าน โดยไม้ประดู่จะให้ความสูงถึง 5,022 และ 7,539 แคลอรีต่อกรัม ตามลำดับ
  4. เปลือกไม้ประดู่สามารถนำมาใช้ย้อมผ้าให้เป็นสีน้ำตาล และยังให้น้ำฝาดสำหรับใช้ฟอกหนัง ส่วนแก่นก็สามารถนำมาใช้ย้อมผ้าได้เช่นกัน โดยใช้ให้สีแดงคล้ำ แต่ในปัจจุบันแก่นประดู่ค่อนข้างจะหาได้ยาก จึงนิยมใช้เปลือกต้นแทนในด้านการนำมาใช้ย้อมสีเส้นไหม โดยลอกเอาส่วนของเปลือกต้นมาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ ตากให้แห้ง เปลือกของต้นประดู่แห้ง 3 กิโลกรัม สามารถย้อมสีเส้นไหม 1 กิโลกรัม ต้มสกัดสีกับน้ำในอัตราส่วน 1:10 เป็นเวลา 1 ชั่วโมง แล้วกรองเอาเฉพาะน้ำนำไปใช้ย้อมเส้นไหมด้วยกรรมวิธีการย้อมร้อนนาน 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็นำเส้นไหมมาแช่ในสารละลายช่วยติดสีจุนสี ก็จะได้เส้นไหมสีน้ำตาลเข้ม
ประโยชน์ในเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ต้นประดู่ป่าเป็นไม้เรือนยอดกลมโต มีความแข็งแรง สามารถช่วยป้องกันลมและคลุมดินให้ร่มเย็นชุ่มชื้นได้ อีกทั้งยังช่วยรองรับน้ำฝนลดแรงปะทะหน้าดินให้น้อยลง ประกอบกับมีระบบรากที่หยั่งลึกแผ่กว้าง จึงช่วยยึดหน้าดินไม่ให้พังทลายได้ง่าย นอกจากนี้ปมรากที่มีขนาดใหญ่ของต้นประดู่ยังช่วยตรึงไนโตรเจนในอากาศมาเก็บไว้ในรูปของไนโตรเจนที่เป็นประโยชน์อีกด้วย ใบที่หนาแน่นของต้นเมื่อร่วงหล่นจะเกิดการผุพังและเพิ่มธาตุอาหารอินทรียวัตถุให้แก่ดินเป็นอย่างมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น